กรรมการ ยืม เงิน บริษัท ภาษี ธุรกิจ เฉพาะ / ผู้ถือหุ้น กรรมการ หรือพนักงานนำเงินให้บริษัทกู้ยืม ต้องเสียภาษีหรือไม่ | อบรมบัญชี, เก็บชั่วโมง Cpd
- Bsbwealth.com - ทำความเข้าใจบัญชีเงินให้กู้ยืมแก่กรรมการ
- ภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืมกรรมการ
- ป.26/2534 | กรมสรรพากร - The Revenue Department (rd.go.th)
- เงินสดย่อย และเงินกู้ยืมกรรมการ เงินกิจการที่ต้องแบ่งหน้าที่ให้ถูก - FlowAccount
หากใครที่ติดตามบทความดีๆ จาก SMEMOVE อยู่อย่างต่อเนื่อง คงจะได้เห็นเรื่องราวเกี่ยวกับเงินกรรมการกู้ยืม หรือเงินให้กู้ยืมแก่กรรมการ ที่ทางกิจการนำเงินภายในมาให้กรรมการกู้ยืมมาบ้างแล้ว วันนี้ SMEMOVE ก็จะขอกลับมาพูดถึงเรื่องราวของเงินกรรมการกู้ยืมอีกครั้ง โดยครั้งนี้จะเป็นเรื่องราวของการคำนวณดอกเบี้ย และภาษีในการยื่น ภ. ธ.
Bsbwealth.com - ทำความเข้าใจบัญชีเงินให้กู้ยืมแก่กรรมการ
ภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืมกรรมการ
- เงินกู้ยืมจากกรรมการหรือผู้เป็นหุ้นส่วน
- จากซูชิห้าบาทถึงโอมากาเสะจอมปลอม และค่านิยมกินของแพงในเมืองกรุง - Rice Media Thailand
- เงินกู้ยืมกรรมการ ทำไมบัญชีนี้ถึงน่ากลัว? | อบรมบัญชี, เก็บชั่วโมง CPD
ป.26/2534 | กรมสรรพากร - The Revenue Department (rd.go.th)
บริษัทยืมเงินกรรมการ บริษัทต้องเสียภาษีให้กรมสรรพากรเท่าไรครับ แล้วถ้ากรรมการยืมเงินบริษัทล่ะครับ วงเงินยืมสมมติว่า 6 ล้านครับ ขออภัยครับ ไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ มีคนฝากถามอีกทีครับผม แสดงความคิดเห็น
หากไม่มีเจ้าหนี้เงินกู้ยืม ลูกหนี้เงินยืมกรรมการให้คิดอัตราดอกเบี้ยตามบัญชีเงินฝากประจำ 2. หากมีเจ้าหนี้เงินกู้ยืม ให้คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับหรือมากกว่าเงินที่กู้ยืม แล้วจะ ล้างลูกหนี้เงินยืมกรรมการยังไง? 1. ทำมติที่ประชุม ตัดหนี้สูญออกไปได้เลย แต่เงินจำนวนนี้จะเข้าเป็น รายจ่ายต้องห้าม เพราะสรรพากรมองว่าไม่เข้าเงื่อนไขรายจ่าย 2. กรรมการที่ได้รับการยกหนี้ให้ ต้องนำมาเป็นเงินได้ 40[2] ด้วย แต่ในทางปฏิบัติ หลายกิจการมักทำจ่ายเงินโบนัสให้กรรมการ และนำเงินนั้นมาจ่ายคืนชำระหนี้บริษัท ซึ่งสามารถนำโบนัสมาเป้นรายจ่ายบริษัทได้อีกทางหนึ่งด้วย ส่วนผลกระทบ ถากิจการมีจำนวนลูกหนี้กรรมการเยอะมากๆ โดยไม่ล้างออก 1. อาจถูกประเมิน รายได้ดอกเบี้ยจากการให้กรรมการกู้ยืม เมื่อสรรพากรตรวจพบ 2. งบการเงินของกิจการ ไม่สะท้อนความเป็นจริง ว่าแท้จริงแล้วกิจการมีสินทรัพย์อยู่เท่าไหร่กันแน่ 3. ผู้ทำบัญชี มักใช้บัญชี เงินกู้ยืมกรรมการนี้ในการ ตบยอด ซึ่งจะทำให้ในอนาคต ไม่สามารถอธิบายที่มาที่ไปได้ เมื่อถูกผู้สอบบัญชีสอบถาม หรือหน่วยงานภาครัฐตรวจสอบ 4. งบของบริษัท อาจมีประเด็นเมื่อนำไปใช้งาน เช่น การกู้เงินจากธนาคาร ว่าสินทรัพย์ที่อยู่ในรูป เงินกู้ยืมนี้ มีมูลค่าจริงเท่าไหร่กันแน่ ลองพิจารณากันดูจ้า CR.
เงินสดย่อย และเงินกู้ยืมกรรมการ เงินกิจการที่ต้องแบ่งหน้าที่ให้ถูก - FlowAccount
HIGHLIGHTS สามารถแบ่งเป็นกรณีค่างๆได้ดังนี้ 1)กรณีบริษัทจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่ผู้ถือหุ้น กรรมการหรือพนักงาน 2)กรณีผู้ถือหุ้น กรรมการหรือพนักงาน ได้นำเงินของตนเอง มาให้บริษัทกู้ยืม 3)กรณีสัญญากู้ยืมเงินที่บริษัททำกับผู้ถือหุ้น กรรมการหรือพนักงาน 4)กรณีบริษัทจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน เป็นการยืมเงินมาเพื่อใช้ในการประกอบกิจการของบริษัท หลายบริษัทเมื่อมีปัญหาขาดสภาพคล่อง แหล่งเงินกู้ที่สำคัญก็หนีไม่พ้นกรรมการ หรือผู้ถือหุ้นของบริษัท เรามาดูกันครับว่าเมื่อกรรมการให้บริษัทกู้ยืมเงินจะมีภาษีอะไรมาเกี่ยวข้องบ้าง ปล. สำหรับในกรณีที่กรรมการกู้ยืมเงินส่วนตัว เพื่อนำใช้หมุนเวียนภายในบริษัท เนื่องจากบริษัทไม่สามารถกู้ยืมเงินเองได้ สามารถนำรายจ่ายดอกเบี้ยมาเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ และไม่ถือเป็นเงินได้กรรมการ ถ้ามีการดำเนินงานตามขั้นตอนต่อไปนี้ – บริษัทมีการจัดทำรายงานการประชุมให้ที่ประชุมอนุมัติให้กรรมการกู้ยืมเงินแทนบริษัท – มีหลักฐานการนำเงินกู้ยืมดังกล่าวมาในกิจการ – มีหลักฐานว่าบริษัทเป็นผู้จ่ายดอกเบี้ยไปจริง
ลูกหนี้กรรมการ ล้างทิ้งยังไงดี มาดูกัน ลูกหนี้กรรมการ สาเหตุที่ทำไม บัญชีเงินสด หรือ บัญชีธนาคาร ถึงไม่ตรงกันนั้นเกิดมาจากหลายสาเหตุ 1. กรรมการดึงเอาเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว 2. บัญชีค่าใช้จ่ายของบริษัท ไม่มีเอกสารประกอบในการบันทึกบัญชี ลูกหนี้กรรมการ แล้วปัญหาที่จะต้องตามมาของบริษัท เมื่อเกิดบัญชีลูกหนี้เงินยืมกรรมการ นั่นก็คือ "รายได้ดอกเบี้ยรับ" รายได้นี้ส่งผลให้ต้องเสียภาษี นิติบุคคล(ภงด. 50)และ ภาษีธุรกิจเฉพาะ(ภธ.
06 - 0. 08 ต่อปี กรณีกู้ยืมเป็นเงินเยน) บริษัทฯ จึงขอหารือดังนี้ 1. บริษัทฯ สามารถนำรายรับที่ได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมดังกล่าว ซึ่งบริษัทฯ ยังไม่ได้รับ ดอกเบี้ยเงินกู้ (แต่ได้ตั้งบัญชีค้างรับไว้ในปี 2541) มาถือเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสีย ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2541 ได้นับตั้งแต่วันที่ให้กู้ บริษัทฯ เข้าใจเช่นนี้ถูกต้อง หรือไม่ 2. บริษัทฯ สามารถนำส่งภาษีธุรกิจเฉพาะจากรายได้ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมดังกล่าวเมื่อได้รับ ชำระดอกเบี้ยตามเกณฑ์เงินสด ถูกต้องหรือไม่ 3. บริษัทฯ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ม. จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้คิดอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ยืมแก่บริษัท ต. จำกัด ในอัตราร้อยละ 3 ถือเป็นเหตุผลอันสมควรตามมาตรา 65 ทวิ แห่ง ประมวลรัษฎากร ถูกต้องหรือไม่ แนววินิจฉัย: 1. กรณีตามข้อ 1 บริษัทฯ จะต้องนำรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่เกิดขึ้นใน รอบระยะเวลาบัญชีปี 2541 แม้ว่าจะยังไม่ได้รับในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2541 มารวมคำนวณเป็น รายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2541 ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร 2. กรณีตามข้อ 2 บริษัทฯ จะนำรายรับจากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมมาเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตาม เกณฑ์เงินสดได้เมื่อบริษัทฯ ได้เลือกเกณฑ์เงินสดในการคำนวณรายรับแต่ต้องปฏิบัติตลอดไป เว้นแต่จะได้ รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้เปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ตามนัยมาตรา 91/8 วรรคสอง แห่ง ประมวลรัษฎากร 3.
ถือว่ามีการจ่ายเสมือนจริง ถึงแม้จะไม่จ่ายจริงก็ตาม วิธีการทำก็คือบันทึกรายการเข้าไปในงบแสดงฐานะทางการเงิน และงบกำไรขาดทุน เมื่อถึงช่วงสิ้นปีก็ทำการปรับปรุงรายการให้เป็นรายการค้างรับ (รับรู้ว่าเป็นรายได้ดอกเบี้ย แต่ยังไม่ได้รับชำระจริง) ดังนั้นรายได้จะถูกนำมาคำนวณภาษี ส่วนเงินที่ค้างไว้จะเป็นดอกเบี้ยรอจ่าย สรุปง่ายๆ ก็คือ การบันทึกรายการเหมือนว่าเกิดขึ้นจริง ในกรณีที่เลือกใช้วิธีการนี้จะเหมือนกับการถูกบังคับให้รับรู้ว่ารายการได้เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะต้องมีการทำรายการจ่ายจริง และเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ (เมื่อมีการจ่าย) อีกทอดหนึ่ง 2.